วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2556

สถานที่ท่องเที่ยวจ.เชียงใหม่2


3. เวียงกุมกาม
             เป็นเมืองโบราณที่เป็นเมืองหลวงเก่าของล้านนา ที่ถูกสร้างโดยพ่อขุนเม็งราย แต่เนื่องจากเกิดน้ำท่วมอยู่บ่อยครั้งในช่วงหน้าฝน ทำให้เมืองทั่งเมืองต้องอยู่ใต้บาดาล ทำให้พ่อขุนเม็งรายตัดสินใจ ย้านราชธานีไปสร้างเมืองใหม่ที่ตีนดอยสุเทพ พบซากโบราณสถานที่สำคัญ ได้แก่  วัดช้างค้ำ  วัดธาตุน้อย  วัดอีค่าง วัดปู่เปี้ย  วัดธาตุขาว  วัดพญาเม็งราย  วัดพระเจ้าองค์ดำ  วัดเจดีย์เหลี่ยม  วัดกู่ป้าต้อม  เป็นต้น ซึ่งพ่อขุนเม็งรายโปรดเกล้าฯให้สร้างเมืองนี้ขึ้น


4. วัดเจดีย์เหลี่ยม หรือ วัดกู่คำ 
           ถนนสายเกาะกลางบริเวณเวียงกุมกาม มีพระพุทธรูปบรรจุอยุ่ในซุ้มรวม 60 องค์ หลังจากที่วัดนี้ถูกปล่อยให้รกร้างก็ได้มีคหบดีชาวพม่าที่เกิดความเลื่อมใสได้บูรณะขึ้นมาใหม่ จึงมีศิลปะแบบพม่าเข้ามาแทนที่แบบดั้งเดิม


5. วัดศรีสุพรรณ 
               
         ตั้งอยู่ ณ ถนนสายวัวลาย  ภายในพระอุโบสถมี พระเจ้าเจ็ดตื้อ มีอายุราว 500 ปี สร้างโดยพระเจ้าเมืองแก้ว เป็น ”พระพุทธอัศจรรย์ มีพลานุภาพสูงส่ง ทำให้ผู้ไปนั่งสมาธิมีความปิติอย่างรวดเร็ว   อุโบสถเป็นสถาปัตยกรรมล้านนาสร้างด้วยคอนกรีตและตกแต่งปิดทับด้วยแผ่นอลูมิเนียมและแผ่นเงิน ที่สลักลวดลายหุ้มผนังอุโบสถทั้งหลังจึงนับเป็นอุโบสถเงินหลังแรกของโลก

6. วัดเจ็ดยอด หรือ วัดโพธารามมหาวิหาร
  
        ถูกสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2020 โดยพระเจ้าติโลกราช กษัตริย์แห่งราชวงศ์เม็งราย ถาปัตยกรรมสำคัญของวัดนี้ได้แก่  เจดีย์เจ็ดยอด ลักษณะคล้ายกับมหาวิหารโพธิที่พุทธคยาในประเทศอินเดีย ซึ่งมีฐานเจดีย์ประดับปูนปั้นรูปเทวดา ด้านนอกพระเจดีย์ก็เช่นกันประดับงานปูนปั้นรูปเทวดาทั้งนี่งขัดสมาธิและยืนทรงเครื่องที่มีลวดลายต่างกันไปดูงามน่าชม  นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญในพุทธประวัติ 7 แห่ง ได้แก่ โพธิบัลลังก์ อนิมิตรเจดีย์ รัตนจงกรมเจดีย์ อชปาลนิโครธเจดีย์ ราชายตนเจดีย์ และ มุจจลินทเจดีย์ ปัจจุบันสถานที่สำคัญในพุทธประวัติเจ็ดแห่งเหลืออยู่ที่วัดเจ็ดยอดเพียงสามแห่ง คือ อนิมิตเจดีย์   รัตนฆรเจดีย์  มุจจลินทเจดีย์  วัดนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ คือ โปรดให้ประชุมพระเถระชั้นผู้ใหญ่เพื่อชำระพระไตรปิฎก ใช้เวลานานถึง 1 ปี จึงสำเร็จ นับเป็นการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 8 ของโลก และเป็นครั้งแรกของไทย และถือเป็นหลักปฏิบัติของพระสงฆ์ในล้านนา
   

7. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงใหม่

         อยู่ใกล้ๆกับวัดเจ็ดยอด รวบรวมสิ่งของที่เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมของภาคเหนือเอาไว้ เช่น  พระพุทธรูปสกุลช่างสมันล้านนา  พระพุทธรูปสมัยเชียงแสน  เครื่องไม้แกะสลัก  เครื่องถ้วยภาคเหนือ เครื่องใช้ประจำวันของชาวล้านนาและชาวเขาเผาต่างๆ  รวมถึงภาพถ่ายประวัติศาสตร์ของเชียงใหม่


 8. วัดพันเตา
  
         วิหารเดิมเป็นหอคำหรือท้องพระโรงหน้าของพระเจ้ามโหตรประเทศ เป็นอาคารเครื่องไม้แบบพื้นเมืองล้านนา ซุ้มประตูประดับไม้แกะสลักรูปนกยูงอันเป็นสัญลักษณ์ของเจ้านายฝ่ายเหนือ


9. ถนนคนเดินเชียงใหม่
    
 อยู่บริเวณประตูท่าแพ มีเฉพาะคืนวันอาทิตย์  สามารถเดินชมและเลือกซื้อของได้อย่างเพลิดเพลินสองข้างทาง ซึ่งเต็มไปด้วยสินค้าพื้นเมือง กระเป๋า เสื้อผ้า สวยงามให้เลือกชมตลอดเส้นทาง ส่วนถนนวัวลายเป็นถนนอีกสายหนึ่งที่มีเฉพาะในคืนวันเสาร์


10. พระธาตุดอยสุเทพราชวรมหาวิหาร
   
          วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2919 ในสมัยพญากือนา กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งอาณาจักรล้านนา ราชวงศ์เม็งราย พระองค์ทรงได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุองค์ใหญ่ ที่ได้ทรงเก็บไว้สักการะบูชาส่วนพระองค์ถึง 13 ปี มาบรรจุไว้ที่นี่ ด้วยการทรงอธิษฐานเสี่ยงช้างมงคลเพื่อเสี่ยงทายสถานที่ประดิษฐาน พอช้างมงคลเดินมาถึงยอดดอยสุเทพ มันก็ร้องสามครั้ง พร้อมกับทำทักษิณาวัตรสามรอบ แล้วล้มลง พระองค์จึงโปรดเกล้าฯให้ขุดดินลึก 8 ศอก กว้าง 6 วา 3 ศอก หาแท่นหินใหญ่ 6 แท่น มาวางเป็นรูปหีบใหญ่ในหลุม แล้วอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุลงประดิษฐานไว้ จากนั้นถมด้วยหิน แล้วก่อพระเจดีย์สูง 5 วา ครอบบนนั้น ด้วยเหตุนี้จึงห้ามพุทธศาสนิกชนที่ไปนมัสการสวมรองเท้าใน บริเวณพระธาตุ และมิให้สตรีเข้าไปบริเวณนั้น ในปี พ.ศ. 2081 สมัยพระเมืองเกษเกล้ากษัตริย์องค์ที่ 12 ได้ทรงโปรดฯให้เสริมพระเจดีย์ให้สูงกว่าเดิม เป็นกว้าง 6 วา สูง 11 ศอก พร้อมทั้งให้ช่างนำทองคำทำเป็นรูปดอกบัวทองใส่บนยอดเจดีย์ และต่อมาเจ้าท้าวทรายคำ ราชโอรสได้ทรงให้ตีทองคำเป็นแผ่นติดที่พระบรมธาตุ

สถานที่ท่องเที่ยวจ.เชียงใหม่


สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ ทัวร์เชียงใหม่ แนะนำที่เที่ยวเชียงใหม่ น่าเที่ยวทุกที่ เคยมาแล้วก็ยังต้องมาเที่ยวอีก 
     

 

         "
 
นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่
หรือ "เวียงพิงค์" ก่อตั้งโดยพญามังรายมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์มังรายเมื่อ พ.ศ. 1839  ราชวงศ์นี้ได้ปกครองมายาวนานกว่า 200 ปี เมืองนี้จึงตกเป็นเมืองขึ้นของพม่าใน พ.ศ. 2101 ต่อมาในปี พ.ศ. 2317  พระเจ้าตากสินมหาราชได้ขับไล่พม่าจนพ่ายแพ้ไป เชียงใหม่จึงถูกรวมเข้ากับสยามนับตั้งแต่นั้นมา  ต่อมาในสมัยพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เชียงใหม่จึงมีฐานะเป็นเมืองประเทศราช  และมีการปรับปรุงการปกครองส่วนภูมิภาคในสมัยพนะบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  เชียงใหม่เปลี่ยนฐานะเป็นมณฑลพายัพ และเป็นจังหวัดในสมัยพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว  ปัจจุบันเชียงใหม่นับเป็นเมืองใหญ่และสำคัญที่สุดในภาคเหนือ และในขณะเดียวกันก็เป็นเมืองที่รวบรวมศิลปกรรม โบราณวัตถุ ตลอดจนวัฒนธรรมดั่งเดิมของล้านนาไว้   โดยทั่วไปแล้วพื้นที่ของเชียงใหม่เป็นป่าละเมาะและภูเขา มีที่ราบอยู่ตอนกลางตามสองฝั่งแม่น้ำปิง 
 
 

***แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและสิ่งที่น่าสนใจ***

  

อยากแอ่วเจียงใหม่ ราคาถูก แอ่วที่ไหน บอกเฮา เดวเฮาจะพาไป เจ้าาาาาาาา ....    (เที่ยวเชียงใหม่ ราคาถูก สถานที่ไหน ๆ ขอให้บอก เรายินดีพาท่านไป)


1. วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร หรือ วัดโชติการาม  
            
         ตั้งอยู่ ณ ตำบลพระสิงห์  ประดิษฐานเจดีย์ใหญ่ที่สุด  ซึ่งสร้างขึ้นในรัชกาลพระเจ้าแสนเมืองมาแห่งราชวงศ์มังราย และอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานนานถึง80 ปี หน้าประตูทางเข้าวิหารมีบันไดนาคคู่เลื้อยงดงามตาและในวัดยังมีเสาอินทขิล หรือเสาหลักเมือง เสาอินทขิลนี้สร้างจากไม้ซุงต้นใหญ่ฝังอยู่ใต้ดิน ประดิษฐานในวิหารจัตุรมุขทรงไทยและในทุกปีจะมีงานเข้าอินทขิลเพื่อเป็นการฉลองเสาหลักเมือง  หน้าประตูทางเข้ามีบันไดนาคเลื้อยงดงามยิ่ง นาคคู่นี้เป็นฝมือเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่เดิม เชื่อกันว่าเป็นนาคที่สวยที่สุดในภาคเหนือ


2. วัดพระสิงห์วรมหาวิหา
  
                เป็นวัดที่พญาผายู ในราชวงศ์มังรายโปรดเกล้าฯให้สร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อใช้เป็นที่บรรจุอัฐิของพญาคำฟู พระราชบิดา  มีพระพุทธรูปสำคัญองค์หนึ่งซึ่งจะมีการอัญเชิญพระพุทธรูปองค์นี้แห่ไปรอบเมืองในช่วงเทศกาลสงกรานต์เพื่อให้ประชาชนสรงน้ำ นั่นคือ  พระพุทธสิหิงค์เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย อีกทั้งวัดนี้ได้ประดิษฐานพระธาตุประจำปีนักษัตรมะโรงอีกด้วย